ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความสุขแล้ว 12 เดือนผ่านไป 365 วันผ่านพ้น หรือกว่า 8,760 ชั่วโมงหมดสิ้น คุณสุขแบบสุดๆหรือยังค่ะ ถ้าใครตอบไม่ได้ล่ะก็ ได้เวลามาสารภาพบาปทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดปีกันแล้ว ใครเคยผิดก็แก้ซะ ใครเคยพลาดก็ลบใหม่ อาจงงว่ามันลืมง่ายอย่างนั้นเลยหรือกับอดีตที่ผิดพลาด ขอบอกว่าง่ายค่ะ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ “ความคิด” คำเดียวแก้ได้ทุกอย่างคล้ายๆกับ 30 บาทรักษาทุกโรคยังไงยังงั้น ไม่เชื่อลองดูค่ะ
1. คิดบวกกับทุกเรื่อง ใครๆก็บอก ใครๆก็เตือนว่าคิดบวกสิเธอแล้วจะดีเอง ว่าแต่มันทำยังไงล่ะ การคิดบวก คือการคิดไปในทางที่ดีและคิดถึงด้านดีๆให้มากกว่าด้านลบ แม้ว่ามันจะมองแทบไม่เห็นแต่ทุกอย่างมันมี 2 ด้านเสมอและมันคือสัจธรรมค่ะ ตัวอย่างเช่น เราอกหัก มองไปทางไหนก็เจอแต่ความเศร้าเคล้าน้ำตา ไม่อยากเอาเวลาไปทำอะไรทั้งนั้น บางคนถึงกลับด่าทอว่า “ไม่มาเป็นฉันไม่รู้หรอก” รู้ค่ะรู้ เพียงแต่คุณต้องมีสติก็เท่านั้น สติมาปัญญาเกิดซึ่งจะทำให้คุณสามารถมองเห็นทุกอย่างแบบทะลุปรุโปร่ง อย่างเรื่องอกหักใครว่ามีแต่ด้านลบ เพราะจริงๆแล้วมันช่วยให้คุณเป็นคนมีความรู้สึกต่างหาก อีกทั้งยังช่วยเป็นบทเรียนสอนให้คุณรักตัวเองมากขึ้นและคิดได้ว่า “ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเอง” เห็นมั้ยว่าการคิดบวกช่วยคุณได้
2. คิดให้เยอะ คิดมากกับคิดเยอะนั้นไม่เหมือนกัน คิดมากคือความครุ่นคิดแบบฟุ้งซ่าน คิดวนไปวนมาอยู่อย่าง นั้น แต่การคิดเยอะคือ การคิดพิจารณาไตร่ตรองเรื่องต่างๆอย่างถี่ถ้วน ซึ่งการคิดให้เยอะจะช่วยให้เราหาเหตุและผลเจอ อีกทั้งยังช่วยให้เราเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นได้ บางคนชอบคิดวนไปมาเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองทำพลาด เช่น ทำงานไม่รอบคอบจนเจ้านายเรียกไปด่าชุดใหญ่ จนผ่านไปไม่รู้กี่วันคุณก็ยังคิดๆๆมันอยู่อย่างนั้น “ฉันไม่น่าทำแบบนั้นเลย” “น่าจะจัดการให้เร็วกว่านี้” บลาๆๆ แถมยังพาลคิดไปว่าเจ้านายต้องเกลียดและไม่ไว้ใจคุณอีกต่อไปแน่ๆ โอ๊ย!!แบบนี้แหละค่ะที่เรียกว่าคิดมาก แต่ถ้าคุณคิดได้ว่าสาเหตุมันอยู่ตรงไหน ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้อย่างไร การคิดถี่ถ้วนแบบนี้นี่แหละที่เขาเรียกว่า การคิดให้เยอะ ซึ่งขอบอกว่าสร้างสรรค์กว่าแยะเลยล่ะ
3. คิดเป็นกลาง มี หลายคนนักที่ชอบคิดเข้าข้างตัวเองแบบไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลทำให้เกิดความผิดพลาดในชีวิตหลายด้าน ทั้งนี้ก็เพราะมัวแต่หลงคิดไปว่า “ฉันไม่ผิด มันนั่นแหละผิด” รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอยู่ร่ำไป ซึ่งหากลองมาคิดดูแล้ว ถ้าคุณมีสติและวางใจเอาไว้ตรงกลางหัวสมองสักนิด เรื่องบางเรื่องที่เลวร้ายอาจกลายเป็นเรื่องดีไปเลยก็ได้เพียงแค่เอ่ยปากขอ โทษหรือยอมรับผิด เราเข้าใจค่ะว่าเป็นธรรมดาของคนที่จะต้องคิดปกป้องตัวเองไว้ก่อน แต่ถ้าคุณลองยกตัวเองออกมาซะ จากนั้นใช้สายตาและสมองเสมือนเป็นของคนอื่นแล้วคิดๆไตร่ตรองดูแทนการเอาตัว เองไปใส่ในเรื่องนั้นๆ ในที่สุดแล้วการที่จะต้องผิดบ้างอาจทำให้คุณมีความสุขมากกว่าการถูกเสมอซะ อีกนะ เชื่อเรา!!
4. คิดก่อนทำ เรา บอกได้เลยว่าถ้าทุกคนคิดก่อนทำกับทุกๆเรื่อง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นนั้นแทบเป็นศูนย์ เพราะเมื่อเราคิดแล้ว ไตร่ตรองแล้วจึงทำ นั่นแสดงว่าเรามีสติเพียงพอ ซึ่งการคิดก่อนทำนั้นไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ก่อนจะทำหรือพูดอะไรออกมา ให้เวลากับสมองสักนิด อย่างน้อยก็ 1 นาทีในการให้รอยหยักในสมองได้ประมวลผลและให้เวลาจิตใต้สำนึกได้คิดตามด้วย ว่าควรหรือไม่ควร ดีหรือไม่ดี เสียเวลานิดหน่อยแค่นี้ยังดีกว่าเสียเวลาทั้งชีวิตเพื่อตามไปแก้ไขกับสิ่ง ที่ทำลงไปโดยปราศจากการคิดนะคะ คุณว่ามั้ย?
5. คิดดี พูดดี ทำดี ข้อ นี้สำคัญที่สุด เพราะถ้าคิดดีแล้วแต่ไม่ลงมือทำก็ไร้ประโยชน์ค่ะ ฉะนั้นปีที่ผ่านมาใครยังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตั้งใจไว้ ปีหน้ารีบเร่งฝีกีบลงมือทำซะให้เรียบเลยค่ะ เพื่อปีถัดไปคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจและมาสารภาพบาป คร่ำครวญอย่างปีนี้ไงล่ะคะ
คิดดี เป็นศรีแก่ตัว แต่ถ้าคิดชั่วแม้แต่ตัวยังไม่อยากอยู่ด้วยเล้ย! (555+)
"ปีใหม่นี้...มีโครงการอะไรดีๆ ให้ตัวเองรึยัง
ตามหัวข้อน้า มาสารภาพบาปกัน
ว่าทำอะไรที่ไม่ดีในปีเก่าไว้รึเปล่า
(เอาแบบคร่าวๆ ไม่เจาะจงละกันเนอะ จะได้สบายใจขึ้น)
>.<"
ไม่แน่น้า การสารภาพบาปครั้งนี้ คุณอาจจะได้รับเรื่องไม่คาดฝันก็ได้
แบ่งปันๆๆๆ ...
ที่มา :: http://webboard.yenta4.com/topic/364126 [ขอบคุณมากๆ กั๊บ]